[HxH] Endless Night (One Shot, KuroKura)
Title: Endless Night
Fandom: Hunter x Hunter by Togashi Yoshihiro
Pairing: Kuroro x Kurapika
Author: Violet Sapphire Lucifer
First posted: Dec 5, 2005
Rate: NC-17
Warning: yaoi, BDSM, angst
กึง!!!
เสียงวัตถุกระแทกกันอย่างจังส่งเสียงกึกก้องไปทั่วทั้งห้องนอนขนาดใหญ่ ซึ่งต้นเสียงมาจากหัวเตียงที่มีของล้มกระจายระเนระนาดอยู่บนพื้น บนเตียงคือร่างงามในชุดสีน้ำเงินเข้มขลิบลายทองซึ่งถูกตรวนด้วยโซ่ไว้กับหัว เตียง จึงเป็นไปได้ว่าเสียงเมื่อครู่เกิดจากการที่ร่างนั้นกำลังหลบหนีจากสถานที่ ที่ไม่น่า
ไว้ใจ
เจ้าของเรือนผมทองยาวประบ่าเม้มริมฝีปากแน่นพลางใช้กำลังข้อแขนกระซากโซ่ล่ามให้ขาดส
ะบั้น ส่งผลให้ขาเสียงเคลื่อนขยับชนโต๊ะข้างๆจนข้าวของระเนระนาด หากร่างนั้นไม่ได้สนใจกับสิ่งเหล่านั้นแม้แต่น้อย….
—-ขาดสิ!! ไอ้โซ่เส็งเคร็ง!!!—-
ร่างนั้นกระชากโซ่ในอาการที่เข้าข่ายกับคำว่า”บ้าคลั่ง” หลังจากที่รู้ตัวว่าตงหลุมพรางของฝ่ายนั้นเข้าให้อย่างจัง ทั้งความเจ็บใจทั้งอารมณ์โมโหทะลักล้นออกจากภายในจนแทบหมดสิ้น แรงกระชากส่งผลให้ข้อมือบางเป็นรอยแดงช้ำเลือด…ซึ่งบางจุดเองก็เริ่มที่จะ มีเลือดซึมออกมาแล้ว
—-ไอ้บ้านั่น!!—-
ริมฝีปากระเรื่อเป็นกระจับงามเม้มสนิทพลางปิดตาแน่นเมื่อนึกถึงสองชั่วโมง ที่แล้ว….. เขานั่งรอคู่อริที่ส่งการ์คพร้อมข้อความนัดหมายสั้นๆเพื่อขอการเจรจาหลังจาก ที่ทั้งส
องตามล่าตามสู้กันมานานจนฝ่ายนั้นเอือมระอา เขาเองก็เอือมระอาไม่แพ้กัน….และยังรู้สึกว่าความแค้นนั้นยังลดน้อยลงไป ที่สำคัญ….ข้อเสนอของฝ่ายนั้นก็ดีไม่น้อย
—-แต่สุดท้าย….มันก็ยังเลวอยู่ดี ไอ้หัวหน้าแมงมุม—-
กริ๊ก…
เสียงสลักกลอนเรียกความสนใจของเด็กหนุ่มผู้ถูกจองจำได้ชะงัก แสงไฟด้านนอกลอดผ่านช่องประตูทักทอให้รอบห้องเป็นเงาสลัว เสน่ห์แห่งราตรีกาลดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นเมื่อบุรุษชุดดำยางกรายผ่านธรณีประตู ในมือเรียวยาวคู่งามดูคล่องแคล่วคือเชิงเทียนสีดำที่ทอประกายแสงไฟวูบไหว ส่งให้ผนังห้องสะท้อนแสงคล้ายนภายามสนธยา นอกจากนั้ยังส่งให้ดวงหน้าคมคายให้ดูเข้มขึ้น….งดงามสมกับสมญานามที่ถูก เรียกขาน
จ้าวแห่งรัตติกาล…คุโรโร่ ลูซิเฟอร์
“ไอ้เลวหัวปิงปอง!!! เล่นลูกไม้สกปรกอะไรกับชั้นอีก?” เสียงกราดเกรี้ยวลอดผ่านริมฝีปากเนียนอย่างมิอาจควบคุม จนเนตรสีหยกแปรสภาพอย่างไม่รู้ตัว
‘ไอ้เลวหัวปิงปอง’ ยิ้มมุมปากอย่างเย็นๆราวกับยอมรับ แม้ว่าสภาพเรือนผมสีดำซอยสั้นจะถูกปล่อยลู่ลงล้อมใบหน้าขาว แต่ภาพพจน์ที่มักเสยผมขึ้นดูจะติดตาฝ่ายนั้นมากกว่า ไอ้เลวหัวปิงปองเอื้อมมือล็อคกลอนประตู เขาย่างสามขุมเข้าหาฝ่ายนั้น แล้วกล่าวเสียงเรียบ “…ตอนหลับยังจะดูดีซะกว่านะ….ไม่สิ….” เขาเปลี่ยนคำ “ดูสวยมากกว่า”
เนตรสีเพลิงถลึงใส่ร่างสูงที่บัดนี้นั่งลงอยู่ที่ขอบเตียง “…นอกจากหัวปิงปอง ยังวิปริตอีกใช่ไหม?”
“ปากคอเราะร้ายจริง….” ฝ่ายนั้นเปรยแทนการตอบคำถาม “…ช่างเถอะ…เรามาคุยเรื่องข้อตกลงกันดีกว่า…”
“แกยอกว่าแกจะคืนเนตรสีเพลิงทั้งหมดที่แกมีอยู่ให้ชั้น….แล้วก็นัดชั้นออก มา” เด็กหนุ่มเริ่มทันที “….แต่แกกลับจับชั้นมาที่นี่เนี่ยนะ??”
คนฟังอยู่ได้แต่ยิ้มยียวนจนเด็กหนุ่มอยากจะยกเท้าขึ้นประทับบนใบหน้าอันหล่อ เหลา คนฟังวางเชิงเทียนลงก่อนจรดปลายนิ้วบนริมฝีปากนิ่มสีชมพู “….ตอนนี้นายมีหน้าที่ฟัง…” เขากระซิบเสียงเย็น “…แล้วชั้นชื่อคุโรโร่….ไม่ใช่แก”
“จะอะไรก็แล้วแต่….แกนัดชั้นไปที่บาร์แล้วจับมาที่นี่ทำไม??” คนถูกยั่วสะบัดหน้าออกแล้วโวยวาย เขาหมดความอดทนกับการเล่นเกมส์กดประสาทกับฝ่ายนั้นเต็มทน…
คิ้วสีเข้มเลิกขึ้น….หากแววตากลับเป็นประกายวับวายยามจับจ้องดวงหน้าหมดจน อันงดงามดั่งดอกไม้แรกอรุณ ริมฝีปากบางสีสดเหยียดยิ้ม…ราวเย้ยหยัน
“ท่าทางนายจะไม่เข้าใจสถานการณ์และสถานภาพของนายสินะ” เขาว่า “ดี….ชั้นจะสอนบทเรียนให้นายซักอย่างแล้วกัน”
มือหนาทั้งสองข้างกดน้ำหนักบนไหล่บางจนชิดกับผิวเตียงสีขาวแล้วใช้ช่วงลำตัวกดท่อนบน
ฝ่าย นั้นไว้ จากนั้นจึงเข้าบดเบียดริมฝีปากสีชมพูอ่อนอย่างเร่าร้อน….รุนแรง ส่งผลให้ผู้ถูกกระทำร้อนวูบไปทั้งใบหน้า เนตรมรกตเบิกกว้างด้วยความตกใจอย่างถึงขีดสุดเมื่อสัมผัสถึงลิ้นนุ่มที่เข้า รุกล้ำใน
ช่องปาก มือที่ถูกตรึงไว้ทั้งสองข้างพยายามดันแผ่นอกแกร่งออก ไม่นานตวงตาคู่นั้นจึงปิดแน่นเพราะไม่อาจต้านทานลิ้นกรุ่นที่คอยพันเกี่ยว ลิ้นของเขา
อย่างช่ำชอง
คุราปิก้าเกือบถูกความเร่าร้อนในช่องปากหลอมละลาย หากสติที่ถูกดึงกลับมาอย่างฉับพลัน ทำให้เขาตัดสินใจกระทำบางอย่างลงไป
“โอ๊ะ!”
บุรุษแห่งรัตติกาลผละออกจากริมฝีปากอันเย้ายวนพร้อมกับใช้ปลายนิ้วซับเลือดที่ซึมออก
จาก ปลายลิ้น ก่อนที่เขาจะยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจกลับสภาพของร่างบางที่นอนหายใจหอบ ถึงกระนั้นดวงตาคู่นั้นยังจ้องเขม็งที่เขา….ดวงตาที่ถูกเพลิงแค้นบดบังจน สิ้น ดวงตาสีเลือดคู่นั้น….หนึ่งในของสะสมที่เขาต้องการ
“อย่าได้คิดว่าจะได้มีโอกาสใช้ห้วงเวลาแห่งจักรพรรดิเลย…เพราะที่นี่ลง ผนึกเน็นไว้หมดแล้ว” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มเรียบ “ว่าแต่นายก็ซาดิมส์ไม่ใช่เล่นนะ…ครั้งแรกแท้ๆ”
พวงแกมเนียนแดงก่ำราวตำลึงสุกด้วยความอับอาย “…แกมันโรคจิต…” ร่างนั้นสบถ
“ตรงไหน…?” ชายหนุ่มย้อน “….ทุกคนย่อมอยากต้องการครอบรองสิ่งที่เราต้องการและสิ่งที่สวยงามเป็น ธรรมดา….เพียงแต่วิธีการของเราคือการขโมย” ว่าพลางไล้ปลายนิ้วลงตั้งแต่ซอกคอเนียนจนถึงลำคอระหง จนร่างบางขนลุกเกรียว ปลายนิ้วนั้นยังตงซุกซน….เขารูดซิบเสื้อตัวนอกของฝ่ายนั้นออก จากนั้นจึงยิ้มบางๆด้วยสีหน้าที่เจ้าเล่ห์เป็นที่สุด “…เดาสิ…ชั้นจะทำอะไร?”
“….เลิกทำอะไรบ้าๆซักที!” ทายาทเผ่าคูลท์ตวาด มือที่ถูกพันธนาการยกขึ้นหวังจะซัดลงบนใบหน้าของหัวหน้าแมงมุม หากถูกฝ่ายนั้นหยุดไว้อย่างง่ายดาย ซ้ำร้าย…มือนั้นกลับถูกตรึงเหนือหัวเตียงอีกทีด้วยผ้าขาวที่ฝ่ายนั้นใช้ คาดหน้าผาก ศีรษะก้มต่ำซุกเข้าซอกคอหอมอันขาวผ่องแล้วฝังจมูกที่หลัง
ใบหู ริมฝีปากอุ่นขมเม้มติ่งหูเบาๆเป็นการหยอกเย้า ทำให้ทายาทเผ่าคูลท์ดิ้นเร่าเพราะความจักจี้ “อ๊ะ..!”
เสียงหวานครางแผ่วยามที่ลิ้นสากลากผ่านซอกคอจนถึงใต้คาง ลมหายใจร้อนเริ่มหอบด้วยรสสัมผัสจากปลายนิ้วที่สะกิดยอดอกระเรื่อจนเป็นต่อม มัน มันถูกเค้นคลึงช้าๆ…พร้อมกันนั้นโพรงปากเล็กยังถูกลิ้นร้อนรุกล้ำอีกครา หากคราวนี้หนักหน่วงกว่าเดิมมาก จนลิ้นของเขาต้องตอบรับกับฝ่ายนั้น…เพราะมิเช่นนั้นลมหายใจของเขาอาจหยุด นิ่งก็เป็นได้
ร่างด้านใต้เริ่มหายใจหนักหน่วงเมื่อการรุกล้ำทางช่องปากยังไม่มีทีท่าจะ หยุด ริมฝีปากสีชมพูอิ่มนุ่มเนียนราวแพรไหมถูกบดขยี้รุนแรงจนช้ำเลือด น้ำใสไหลเป็นทางผ่านมุมปาก ก่อนที่จูบร้อนจะถูกถอนออก…หากเบื้องล่างกลับถูกครอบครองด้วยฝ่ามือหนา
“อย่า…” ดวงหน้างามสะบัดออกพร้อมแพขนตางอนยามที่เริ่มมีละอองน้ำเกาะ แม้จุดอ่อนไหวใต้ร่มผ้าถูกลูบคลำอย่างทะนุถนอม…หากมันคือตัวการที่ทำให้ ความต้องการภายใต้แผ่นอกเพิ่มขึ้น เตรียมตัวที่จะปะทุออกมาอยู่ทุกเมื่อ
“ครั้งแรกก็แบบนี้ล่ะ…” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน เขาซุกมือเข้าใต้ผ้าขาวแล้วเลิกขึ้นเผยหน้าท้องนวลเนียน “รู้สึกไวไปกับทุกสัมผัส…”
“เอามือออกไป….อื้อ…”
คุโรโร่เข้าสัมผัสท้องขาวของร่างข้างใต้ด้วยปลายลิ้นชุ่ม มือทั้งสองทำงานอย่างไม่หยุด…ข้างหนึ่งเข้าหยอกเย้าช่องปาก ส่วนอีกข้างกำลังปลุกเร้าอารมณ์คุราปิก้าให้กระเจิง… ทว่าคุราปิก้าเองดื้อไม่ใช่เล่น ฟันขาวพยายามขบกัดนิ้วทั้งสองที่เข้าไล้บนฟันที่เรียงเป็นระเบียบ…ไม่ยอม เปิดโอกาสให้เขาได้กลั้นเสียงหอบกระเส่าทอันหวานฉ่ำ…จนตัวเองยังขนลุก
“อ๊ะ…อ๊า…..”
ผู้รุกยิ้มอย่างพอใจเมื่อส่วนนั้นดันผิวผ้าให้นูนออก เขาล้วงมือเข้ากอบกำโดยตรง เนตรรัตติกาลเหลือบมองดวงหน้างามอันแดงก่ำซึ่งเบือนออกพลางหลับตาแน่น เขาจึงล้วงบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกงที่มีลักษณะคล้ายรีโมท เพียงแค่ปุ่มเดียวแปรผนังเย็นชืดให้เป็นบานกระจก! รอยยิ้มมุมปากยกสูงขึ้นเมื่อพบว่าปฏิกริยาของฝ่ายนั้นเป็นตามที่เขาคาดคิดไว้ทุกประก
าร เข็มฉีดยาที่บรรจุของเหลวสีม่วงอ่อนจึงถูกฝังลงในข้อมือที่ขืนไว้จนเกร็ง
“โอ๊ย!”
ความเจ็บปวดทำให้คุราปิก้าร้องออกมาพร้อมกับเนตรสีไพรที่เบิกกว้าง ทำให้เขาพบกับสภาพของตนเองในกระจก….สภาพกึ่งเปลือยที่นอนอยู่ใต้ร่างสูง …คุโรโร่…คนที่เขาเกลียดลึกถึงก้นบึ้งหัวใจ….และในตอนนี้…สีหน้าของ เขาดูเย้ายวนจนตัวเองสะอิดสะเอียน เขาตกใจจนปิดตาไม่ลง
“…สวยใช่ไหมล่ะ? สภาพของนายในตอนนี้” ร่างสูงที่คร่อมอยู่เบื้องบนถามพร้อมรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม “….นายเคยบอกว่าอย่าให้สายตาหลอกตัวเอง…นายคงรู้แล้วสินะ”
เด็กหนุ่มสะอึก…เขาไม่อาจสรรหาคำแก้ตัวดีๆมาตอบคนด้านบนได้เลย สิ่งที่กระจกสะท้อนคือร่างบอบบางอันงดงามไปทุกส่วนสัดทอดร่างใต้ร่างที่ได้ สัดส่วนสม
ชาย เรือนผมทองระยับดั่งแสงตะวันล้อมกรอบใบหน้าจิ้มลิ้มซึ่งสวยกว่าสตรีทั่วไป มาก แววตาสีหยก…บ่งบอกอารมณ์ที่อ่อนไหวและความต้องการ สรุปได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนตรงกันข้างกับร่างสูงโดยสิ้นเชิง
“คืนนั้นชั้นไม่ทันสังเกตว่าคนเผ่าคูลท์มีรูปร่างที่งดงามขนาดไหน….แต่คืน นี้ชั้นจะสำรวจทุกซอกทุกมุมเชียวล่ะ” เสียงทุ้มต่ำระรื่นหูกรอกกระซิบ
อีกครั้งที่เนตรสีเพลิงตื่นตัว… แล้วอ่อนลงสู่สภาพเดิมอีกเมื่อรู้สึกว่ามีของแปลกปลอมไหลเวียนอยู่ในเลือดเป็นที่เรี
ยบร้อย…
“…แกทำอะไร?” ร่างบางเค้นเสียง ส่วนภายในเริ่มรู้สึกแปลกๆ
“…ชั้นให้ใครคนหนึ่งปรุงเมื่อวาน…” ฝ่ายนั้นตอบยิ้มๆ “มันไม่ใช่ยาปลุกหรอกวางใจได้…..แต่มันทำให้นายขัดขืนชั้นน้อยลง เพราะชั้นเองไม่อยากทำให้ของสวยงามต้องพังทลายก่อนเวลาอันควร”
“ก่อนเวลาอันควรงั้นเรอะ?” เขาย้อนถาม “…ชั้นยอมตายซะดีกว่า…” เขาว่าเสียงแข็ง
ยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนดวงหน้าคมคาย “…ไม่อยากได้เนตรสีเพลิงคืนแล้วสินะ”
ไพ่ตายที่ถูกวางลงส่งผลให้ผู้ฟังกัดฟัดกรอดด้วยความเจ็บใจ สีหน้าที่บ่งบอกถึงความเกรี้ยวกราด…เคียดแค้นไม่ได้ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้า งดงามแฝงความเย็นชาเหือดแห้งลงแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน…รอยยิ้มกลับกว้างขึ้นพร้อมชัยชนะ
ดวงตาสีหยกหลุบลงต่ำด้วยความเจ็บใจ เขาไม่มีทางเลือกมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว….
ความเงียบที่เริ่มโรยตัวลง คุโรโร่จึงถามขึ้น “ว่าไงล่ะ? ตกลงหรือไม่ตกลง?”
“ยังไงชั้นก็ไม่มีทางเลือกแล้วไม่ใช่หรือไง?” คุราปิก้าย้อน
แววตาสีถ่ายเป็นประกาย เขาเน้นอีกครั้ง…ด้วยถ้อยคำที่ช้าและชัด “…ตกลง…หรือไม่ตกลง?”
“….ตกลง” เสียงหวานตอบแผ่วไม่แพ้เสียงกระซิบ หากห้องนั้นเงียบเชียบทำให้คนฟังได้ยินคำตอบชัดเจน
ถึงกระนั้น…ฝ่ายนั้นยังคงแสร้งไม่ได้ยิน “ว่าไงนะ?”
ยิ้มกรุ่มกริ่มฟ้องเด็กหนุ่มผมทองว่ายบุรุษกางเขนกลับหัวได้ยินถ้อยคำของเขา ชัดเจน….จนเขาต้องตอบเสียงลั่นทั้งๆที่พวกแก้มเนียนสุกแดงเหมือนมะเขือเทศ “ตกลงไงล่ะ!!! ไอ้แก่หูตึง”
“ดี…” บุรุษกางเขนกลับหัวว่า “…แต่ต้องเรียกชั้นว่าคุโรโร่เท่านั้น….เข้าใจหรือเปล่า….” เขาโน้มตัวกระซิบ “คุณคุราปิก้า?”
ผู้ถูกขานนามทำตัวไม่ถูก แต่ที่รู้แน่คือเขาหลุดจากพันธนาการที่ยึดมือติดกับหัวเตียง เขาตั้งใจจะหนี….แต่กล้ามเนื้อกลับไม่ทำตามที่ใจคิด ฝ่ายนั้นเองก็เริ่มใช้มือเตล้งคลึงตามผิวนุ่มลื่นของเขาอีกครั้ง ก่อนที่จะโถมริมฝีปากเขาตักตวงความหอมหวานจากภายในอีกครั้ง เขาปล่อยตัวไปตามความต้องการ
ของบุรุษผู้นั้น หากหัวใจของเขาแทบหยุดเต้นไปแล้ว…
“ฮ๊า…”
มือบางจิกลงที่ผ้าปูเตียงสีขาว…ยามที่ปากอุ่นของฝ่ายนั้นเคลื่อนต่ำเข้าขม เม้มที่ต้นขาขาว ช่วงที่เขาทำใจอยู่ฝ่ายนั้นคงใช้มือรูดกางเกงเขาลงกองบนเข่า ไม่ช้า…ปากนั้นได้เคลื่อนเข้าฝังลงที่กลางขา ครองครองส่วนอ่อนไหวที่สุด…
“ไม่เอา…มันสกปรก” ร่างบางดิ้นเร่าด้วยความเสียวซ่าน พลางใช้มือดันหัวฝ่ายนั้ออก “อ้า…”
คนรุกไม่ได้สนใจคำอุธรณ์ของร่างบางเลย เขายังคงใช้ปากให้เป็นประโยชน์ด้วยการขยับเข้าออกช้าๆจนสัมผัสความกระด้างที่เพิ่มขึ
้ นกระทันหัน ลิ้นอุ่นค่อยๆโลมเล้าราวกับดื่มด่ำกับของหวาน จากนั้นจึงดูดซับปลายโคนราวกับชำนาญ…ทำให้เสียงครางหวานถี่มากขึ้น การกระทำซ้ำๆเช่นนี้ดำเนินไปเรื่อยๆ หากทุกครั้งที่เขาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นจนคนรับเกือบปลดปล่อยความต้องการ เขามักจะหยุดไปดื้อๆ….เพราะหวังอะไรบางอย่างจากร่างนั้น
….ใช่…การอ้อนวอน…
“นายบอกว่านายไม่เอา…มันสกปรก แล้วตอนนี้ล่ะ?” เขาถามเมื่อผละออกจากแกนกายฝ่ายนั้น
ดวงหน้างามเบือนออก…ภาพในกระจก….ยังคงสะท้อนสิ่งที่เขาไม่อยากเห็นและ ไม่อยากให้เกิดขึ้น “….นาย…ระ…รู้ทุกอย่าง…นายวางแผน…ก่อน….แล้วไม่ใช่หรอ?” เขาย้อนถามเสียงเครือ ในขณะเดียวกัน…ร่างกายมันก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะเป็นลม แต่แต่หัวใจมันชาจนแทบไม่รู้สึกความเจ็บ
ปวด ส่วนภาพในกระจกดูเหมือนจะเลือนลางลงเพราะหยาดน้ำที่คลอหน่วย…
—-ดูเหมือนจะแกล้งมากไปหน่อยแฮะ….—– คุโรโร่นึกในใจเมื่อเห็นสภาพของร่างบางตรงหน้า เขาก้มลงพรมจูบบนเปลือกตาคล้ายว่าซับหยาดน้ำตาที่กำลังไหลรินพลางปลอบประโลม “…ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลย…อย่าร้องไห้เลยนะ”
“ไม่ทำตรงไหนล่ะ?” ฝ่ายนั้นถาม “นายฆ่าล้างเผ่าชั้น…แล้วตอนนี้ยังจะ….” ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น “ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังนะ!”
คนที่ถูกต่อว่ายิ้มน้อยๆอย่างที่ตนเองก็ไม่รู้ตัว เขาทำการปลดปล่อยอารมณ์ของร่างงามเบื้องหน้าต่อจากนั้น ของเหลวอุ่นทะลักล้นถูกกลืนกินจนหมด ทั้งตวงตาคมกริมสีดำขลับที่คอยมองสีหน้าเวลาครางอย่างสุขสม ทำให้ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงซ่าน…
“ชั้นน่ะนะ…” เขาว่าแล้วดูดซับปลายนิ้วเรียวของฝ่ายนั้น “อยากเก็บนายให้อยู่ในคลังสมบัติชั้นแค่คนเดียว….”
ชายหนุ่มมองดวงตาสีหยกอันหวานฉ่ำด้วยแววตาอันลึกซึ้ง ก่อนจะวกวนปลายนิ้วอยู่บริเวณทางเข้าพลางลูบไล้ช้าๆ
“อ๊า….” เสียงหวานครางสั่นๆ “ทำไม…ทำแบบนี้กับผู้ชายแล้วสนุกหรอ?”
ลำแขนแกร่งช้อนศีรษะอันปกคลุมด้วยเส้นไหมทองขึ้นแล้วจุมพิตลงบนปลายจมูกโด่ง “ไม่สนุกหรอก…ถ้าไม่ใช่นาย” เขาว่าแล้วสอดนิ้วเข้าไปในร่างนั้นเบาๆ
คุราปิก้าเกร็งสะโพกไว้แน่นเพราะต่อต้านนิ้วที่กำลังจะรุกล้ำเข้าในร่างกาย ในสมองนั้นว่างเปล่า….นอกจำคำพูดประหลาดๆที่ชายหนุ่มเกงเขนกลับหัวบอกกับ เขาเมื่อครู่
“อื้อ…เจ็บ”
“คลายออกสิ…” เสียงทุ้มต่ำอันน่าหลงใหลกระซิบข้างใบหูพร้อมลมหายในร้อน “…ชั้นไม่ทำให้นายเจ็บหรอกนะ”
เด็กหนุ่มผมทองทำตามอย่างว่าง่าย…เขาปล่อยให้นิ้วยาวแทรกเข้าด้านในจนสุด คงเป็นเพราะความช่ำชองของฝ่ายนั้นทำให้เขาไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน…กล้ามเนื้อกลับบีบรัดยามที่นิ้วนั้นเคลื่อนไหวเข้าออก
….เขาไม่ใช่คนแรกสำหรับร่างสูง….
เสียงครางกระเส่าหวานล้ำราวระฆังแก้วกึกก้องไปทั้งห้องเพราะนิ้วที่เคลื่อนรุกเร้าเร
่ง จังหวะให้รวดเร็ว ทั่วทางเข้าร้อนรุ่มจนความรัญจวนแผ่ม้วนเข้าสู่ท้องน้อย ส่วนชายหนุ่มเองก็รู้สึกร้อมรุ่มขึ้นมาไม่แพ้กัน ยามที่ได้มองหน้าหวานอันแสนงดงามกับเสียงครางกังวานใส ความต้องการที่อยากครอบครองมากยิ่งขึ้น เขาเข้าโอบไหล่บางไว้แล้วแทรกตัวเข้าไปตรงกลาง ขาเรียวขาวของคนเบื้องหน้ายกพาดบนหัวไหล่หนา ก่อนที่จะสอดแทรกร่างกายเข้าภายในนั้นผ่านทางเข้าที่ร้อนวาบ
“เฮื๊อก…”
ร่างบางสัมผัสของความแข็งขืนที่สอดเข้าจนมิด สะโพกบิดเร่ายามที่สิ่งนั้นเคลื่อนไหว ดวงตาเริ่มพร่าเลือนก่อนร่างกายจะตอบสนองการรุกล้ำเป็นอย่างดี กายหนาที่โถมกอดอย่างทะนุถนอมทำให้แขนพลางโอบรอบคอแกร่งอย่างไม่รู้ตัว สะโพกขาวมนยกรับยามที่บนด้านบนโหมสะโพกตนเอาเข้าปะทะ เสียงหอบหนักของคนทั้งสองแทบจะหลอมรวมเป็นเสียงเดียว ทั้งการรุกล้ำเริ่มหนักหน่วงจนขาเตียงครูดไปกับพื้น เร่งรัดเสียงครางให้ถี่ขึ้น…กระนั้น…น้ำเสียงยังคงไพเราะกังวานใส
“อ๊า…อ๊า……..”
เสียงหวีดครั้งสุดท้ายดังขึ้นพร้อมการปลดปล่อยของของเหลวขุ่นที่เต็มอยู่ ภายใน….ก่อนที่เด็กหนุ่มจะหมดสติลง ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มก่อนที่จะผละออกไป….
อีก ครั้ง….ที่เด็กหนุ่มผมทองกลับมาที่หมู่บ้านร้างกลางดงไพรอันสวยงามและ เงียบสงบ ตามโน๊ตที่หัวหน้าแมงมุมทิ้งเอาไว้บนหัวเตียง เมื่อนึกถึงทีไรปลายนิ้วมักสัมผัสลงบนต้นคอเสมอ…เพราะภายใต้ร่มผ้านั้นคือ รอบจ้ำแดงที่ฝ่ายนั้นประทับไว้ และไม่ใช่เพียงแค่ที่นั้นที่เดียว.. ความอบอุ่นและอ่อนโยนที่เค้าไม่คิดว่าคนๆนั้นจะมีกลับถ่ายทอดทั่วอนูจน ร่างกายมันจดจ
ำรสสัมผัส
—-บ้าจริง…เราคิดอะไรอยู่!—-
ดวงหน้างามส่ายสะบัดเพื่อสลัดความคิดฟุ้งซ่าน เขาเดินผ่านหน้าหมู่บ้านเข้าไป…ก็พบว่าที่ลานกว้างนั้นมีหลุมศพมากมายที่ เขาทำเอาไว้ก่อนหน้านั้น หากที่หน้าหลุมศพทั้งหมดโรยด้วยกลีบกุหลาบสีขาวส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจาย เมื่อลองขุดดูตามแต่ละหลุมก็พบกระบอกเนตรสีเพลิงฝังเอาไว้อยู่ครบถ้วน…
หยาดน้ำตาเป็นประกายกลิ้งลงผ่านผิวแก้มเนียน เขาไม่นึกว่าเนตรสีเพลิงทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในหมู่บ้านมาตั้งนานแล้ว…เนตร มรกตมองเหม่อบนฟ้าสีครามไร้ซึ่งเฆมหมอก…
….ช่างเป็นท้องฟ้าที่งดงามจริงๆ